ประวัติบริษัทฯ

  • ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดกรังด์ปรีซ์
  • เปิดตัวนิตยสารฉบับแรก คือ “นิตยสารกรังด์ปรีซ์” ซึ่งเป็นนิตยสารที่รวบรวมเนื้อหาในวงการ ยานยนต์ การทดสอบรถ ข้อมูลรถใหม่ งานแสดงรถยนต์ ข้อมูลทางด้านเทคนิค รวมถึงกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาเกี่ยวกับรถยนต์ ฯลฯ
  • จัดงาน “มหกรรมรถยนต์” ครั้งที่ 1 (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Bangkok International Motor Show) ขึ้นครั้งแรกที่สวนลุมพินี
  • จัดงาน “Bangkok Motor Show” ครั้งที่ 2 โดยได้ย้ายสถานที่จัดงานมายังสวนอัมพร
  • บริษัทฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2525 ด้วยทุนจดทะเบียน 00 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายนิตยสารด้านยานยนต์
  • จัดงาน “Bangkok Motor Show” ครั้งที่ 7 และได้เปลี่ยนชื่องานเป็น “The 7th International Bangkok Motor Show”
  • จัดงาน “The 19th International Bangkok Motor Show” โดยได้ย้ายสถานที่จัดงานมายังที่ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติกรุงเทพมหานคร (ไบเทค บางนา)
  • จัดงานมหกรรมยานยนต์รถมือสองและยนต์กรรมนำเข้า (Bangkok Used Car & Imported Car Show) ขึ้นครั้งแรกที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
  • จัดงาน “The 31st Bangkok International Motor Show” โดยได้ย้ายสถานที่จัดงานมายังที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
  • บริษัทฯ ได้ดำเนินการแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2557 และเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์”)
  • บริษัทได้เริ่มจัดทำเว็บไซต์หลักของบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อn grandprix.co.th เพื่อเป็นสื่อหลักและศูนย์กลางในการนำเสนอข่าวสารและเนื้อหาสาระทางด้านยานยนต์
  • บริษัทได้เปิดจำหน่ายหุ้นสามัญ IPO ให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 100 ล้านหุ้น ในราคา 50 บาท/หุ้น และเริ่มต้นซื้อขายหลักทรัพย์ GPI ในวันที่ 1 ธันวาคม 2560
  • บริษัทได้จัดซื้อเครื่องพิมพ์ RMGT รุ่น 1050ST-5 + LED UV เพื่อนำมาทดแทนเครื่องพิมพ์ตัวเดิมที่ใช้งานอยู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจรับจ้างพิมพ์
  • จัดตั้งบริษัท Grand Prix International (Myanmar) Ltd. ในประเทศเมียนมา เพื่อรองรับการจัดงาน Yangon International Motor Show ครั้งที่ 1 ณ ประเทศเมียนมา
  • ร่วมมือกันระหว่าง บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ในโครงการพัฒนาดิจิทัลมีเดีย และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของสื่อและกิจกรรมเกี่ยวกับยานยนต์ในกลุ่ม GPI
  • บริษัทได้จัดงาน Yangon International Motor Show ที่ประเทศเมียนมาขึ้นครั้งแรกในปี 2562 โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 มกราคม 2562 โดยมีผู้เข้าชมงานรวมประมาณ 20,000 คน และจำนวนยานพาหนะที่มาจัดในงานสามารถขายรถได้ประมาณ 121 คัน โดยมี 6 บริษัทรถยนต์เข้ามาร่วมแสดงงานในครั้งนี้
  • บริษัทจัดงานแข่งขัน eRacing Sport โดยเป็นผู้จัดแข่งขันเกมแข่งรถเสมือนจริง Gran Turismo Sport (GT Sport) สนามใหญ่ผ่านระบบออนไลน์ขึ้นครั้งแรกในปี 2562 โดยจัดแข่งขันในปีนี้แล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกภายในงาน Bangkok International Motor Show 2019 เมื่อเดือนมีนาคม-เมษายน 2562 ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดือนตุลาคม 2562 และครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ได้รับการรับรองจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
  • บริษัทได้เข้าทำการซื้อหุ้นของบริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจัดงานแสดงรถยนต์มือสอง และรถใหม่ ภายใต้ชื่องาน “Fast Auto Show” โดยได้ขอซื้อหุ้นจำนวน 15% ของทุนจดทะเบียน เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้จัดงานแสดงยานยนต์รายย่อย และเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

บริษัทได้ร่วมจัดตั้งบริษัทใหม่ ระหว่าง บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อเป็นการขยายธุรกิจทางด้านดิจิทัลมีเดีย และเพิ่มช่องทางในการจัดเก็บข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันในชื่อ “Car Buddy By GPI” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ค้นหาอู่หรือศูนย์บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ ตามประเภทของการซ่อมบำรุงและยี่ห้อของรถยนต์

  • คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด (“True Energy”) โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 250 ล้านบาท คิดเป็น จำนวน 700,000 หุ้น หรือ คิดเป็นร้อยละ 45 ของหุ้น โดยเป็นการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ RDF (Refuse Derived Fuel) ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 9 เมกกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ได้มีการวางแผนและคาดว่าจะมีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564
  • ทางโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนแปรรูป (RDF) บริษัท ทรูเอนเนอร์จี จำกัด (“True Energy”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯ ได้มีการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการแล้ว กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ) โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทั้งสิ้น 9 เมกะวัตต์